คุณกำลังมองหาสิ่งใด

เรื่องน่ารู้ กับ 5 ประเภทวัสดุปูพื้นยอดนิยม
ปัจจุบันนี้มีวัสดุปูพื้นหลากหลายประเภทให้เจ้าของบ้านได้เลือกใช้ แต่ละชนิดก็มีจุดเด่นและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป จึงต้องเลือกซื้อให้ตอบโจทย์กับการใช้งานและความต้องการของเรา แต่จะเลือกอย่างไรดี? มาทำความรู้จักวัสดุปูพื้นแต่ละประเภทไปพร้อมๆ กันเลย
 
1. ไม้: ไม้ที่นิยมใช้ปูพื้น อาทิ ไม้มะค่า ไม้แดง ไม้ประดู่ ไม้สัก ข้อดีคือสวยงามเป็นธรรมชาติดูมีราคา และมีผิวสัมผัสที่ดีแต่มีข้อเสียคืออาจถูกปลวกกิน มีการยืดหดตัวตามสภาพอากาศต้องดูแลรักษามากกว่าวัสดุชนิดอื่นๆและค่อนข้างราคาสูงกว่าวัสดุประเภทอื่น
 
2. ไม้ลามิเนต: ทำจากผงไม้บดผสมสารสังเคราะห์ อัดเป็นแผ่นด้วยความดันสูง (HDF) แล้วเคลือบปิดผิวเป็นลายต่างๆ ข้อดี คือ ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา สามารถเลือกสีและลายได้หลากหลาย ราคาถูกแต่ข้อเสียคือ มีการยืดหดตัว อาจโป่งพองเมื่อถูกความชื้นอายุการใช้งานสั้น และถ้าติดตั้งบนพื้นที่ไม่ได้ระนาบ เมื่อเหยียบจะเกิดการยุบและมีเสียงดังรบกวนได้ง่าย
 
3. ไฟเบอร์ซีเมนต์: เป็นวัสดุทดแทนไม้ ซึ่งทำจากเส้นใยธรรมชาติ ผสมกับปูนซีเมนต์และทราย ก่อนนำไปอบจนมีความแข็งแรงทนทาน ข้อดีของไฟเบอร์ซีเมนต์ คือ แข็งแกร่ง ทนทาน ทนไฟ ปลวกไม่กิน ไม่ยืดหดตามสภาพอากาศ และติดตั้งได้ง่าย ส่วนข้อเสีย คือ ข้อจำกัดด้านการทำสี ซึ่งควรใช้สีสำหรับทาไฟเบอร์ซีเมนต์เท่านั้น เพราะไฟเบอร์ซีเมนต์มีเซลลูโลส สีอะครีลิกทั่วไปจึงยึดเกาะกับผิววัสดุได้ยาก อาจทำให้สีไม่สม่ำเสมอ หรือเกิดการด่างได้
 
ทั้งนี้ ไฟเบอร์ซีเมนต์ไม่ใช่แค่วัสดุปูทับหน้าพื้น แต่ยังมีคุณสมบัติรับน้ำหนักและแข็งแรงพอ ที่จะใช้เป็นพื้นสำหรับปูวัสดุปูทับหน้าอื่นๆ อย่างเช่นกระเบื้องด้วย
 
4. กระเบื้อง: มีให้เลือกหลายแบบหลายราคา ทำความสะอาดง่าย กันน้ำได้ดี ที่นิยมใช้ปูพื้น ได้แก่ กระเบื้องเซรามิก และ กระเบื้องยาง

• กระเบื้องเซรามิก - ข้อดีคือ ดูสวยงามภูมิฐาน สามารถปูแบบเล่นลวดลายได้ มีข้อเสียคือแตกหักได้ สัมผัสค่อนข้างแข็งและเย็นเท้า จึงไม่เหมาะกับการใช้ปูห้องนอนและห้องน้ำ
  
  
   
• กระเบื้องยาง - ทำจากยางพีวีซี ข้อดีคือราคาประหยัด ให้สัมผัสที่นุ่มนวลกว่ากระเบื้อง แต่ข้อเสียคือหลุดร่อนและสึกหรอง่าย อายุการใช้งานสั้น นอกจากนี้ยังดูไม่มีราคา บางคนจึงไม่นิยมใช้ปูพื้นบ้าน แต่ไปใช้กับพื้นสำนักงานมากกว่า
   

5. หิน: หินที่นิยมใช้ปูพื้น แบ่งออกเป็น หินอ่อน/หินแกรนิต และ หินขัด มีข้อดีคือความแข็งแรงทนทาน ดูแลรักษาง่าย แต่มีข้อเสียเรื่องสัมผัสที่แข็งกระด้าง และราคาที่ค่อนข้างสูง
 

• หินอ่อน/หินแกรนิต - ทั้งสองชนิดจะดูหรูหราแวววาวมากกว่าหินขัด หินอ่อนใช้ได้เฉพาะงานภายใน ส่วนหินแกรนิตใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก
  
  
   
• หินขัด - มีสีสันและลวดลายหลากหลาย ขึ้นอยู่กับการผลิตจากโรงงาน ดูไม่ค่อยหรูหรานัก ปัจจุบันหินขัดจึงไม่นิยมใช้กับบ้านเรือน จะพบเห็นได้ในที่สาธารณะ เช่น ห้าง โรงเรียน มากกว่า
  
   

 
เมื่อเลือกวัสดุปูพื้นที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์ความต้องการของเราแล้ว อย่าลืมดูแลรักษาให้ดี เพื่อความสวยงาม มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ให้คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปค่ะ
 
ขอบคุณข้อมูลจาก
Shera.com